การตรวจ NIPT (Non-Invasive Prenatal Testing) หรือ Non-Invasive Prenatal Screen (NIPS) เป็นการตรวจคัดกรองความเสี่ยงของทารกในครรภ์ที่จะมีความผิดปกติของโครโมโซมที่พบบ่อย เช่น ดาวน์ซินโดรม (Trisomy 21), เอ็ดเวิร์ดซินโดรม (Trisomy 18) และ พาทาวซินโดรม (Trisomy 13) รวมถึงความผิดปกติของโครโมโซมเพศ (X, Y) โดยการเจาะเลือดคุณแม่เพียงเล็กน้อย เพื่อตรวจหา Cell-Free Fetal DNA (cfDNA) หรือสารพันธุกรรมของทารกที่ล่องลอยอยู่ในกระแสเลือดของคุณแม่
บริการนี้เหมาะสำหรับ:
- คุณแม่ตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์ตั้งแต่ 10 สัปดาห์เป็นต้นไป (สามารถตรวจได้ตลอดการตั้งครรภ์ แต่แนะนำให้ตรวจในช่วงต้น เพื่อให้มีเวลาวางแผนหากพบความผิดปกติ)
- คุณแม่ที่ต้องการทราบความเสี่ยงของภาวะดาวน์ซินโดรมและโครโมโซมผิดปกติอื่น ๆ ด้วยวิธีที่แม่นยำสูงและปลอดภัย
- คุณแม่ที่เคยมีผลการตรวจคัดกรองด้วยวิธีอื่น ๆ (เช่น Quadruple Test) แล้วพบว่ามีความเสี่ยงสูง
- คุณแม่ที่ตั้งครรภ์เมื่ออายุมาก (มากกว่า 35 ปี) ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการมีบุตรเป็นดาวน์ซินโดรม
- คุณแม่ที่มีประวัติการตั้งครรภ์ครั้งก่อนเป็นดาวน์ซินโดรมหรือมีความผิดปกติของโครโมโซม
- คุณแม่ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการตรวจวินิจฉัยแบบรุกราน เช่น การเจาะน้ำคร่ำ หรือการเจาะชิ้นเนื้อรก (ในกรณีที่ผล NIPT ปกติ)
วัตถุประสงค์ของการตรวจ NIPT:
- คัดกรองดาวน์ซินโดรม (Trisomy 21): ตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา
- คัดกรองเอ็ดเวิร์ดซินโดรม (Trisomy 18): ตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 18 เกินมา
- คัดกรองพาทาวซินโดรม (Trisomy 13): ตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 13 เกินมา
- คัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมเพศ: เช่น Turner Syndrome (XO), Klinefelter Syndrome (XXY)
- ระบุเพศของทารก: มีความแม่นยำสูง
หลักการทำงานของ NIPT:
ในช่วงตั้งครรภ์ เซลล์จากรกของทารกจะสลายและปล่อย DNA ออกมาล่องลอยอยู่ในกระแสเลือดของคุณแม่ ซึ่งเรียกว่า cfDNA โดยประมาณ 10-20% ของ cfDNA ทั้งหมดในเลือดคุณแม่มาจากทารก (อัตราส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นตามอายุครรภ์) การตรวจ NIPT จะทำการแยก cfDNA ของทารกออกมา แล้วนำไปวิเคราะห์หาความผิดปกติของจำนวนโครโมโซม
ข้อดีของ NIPT:
- ความแม่นยำสูง: มีความแม่นยำในการคัดกรองดาวน์ซินโดรมสูงถึง 99% ขึ้นไป ซึ่งสูงกว่าการตรวจคัดกรองแบบอื่น ๆ (เช่น Quadruple Test) มาก
- ปลอดภัย: เป็นการตรวจที่ไม่รุกราน (Non-Invasive) เพียงแค่เจาะเลือดคุณแม่ จึงไม่มีความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร
- ตรวจได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ: สามารถทำได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 10 สัปดาห์ ทำให้คุณแม่ทราบผลได้เร็วขึ้น
ข้อจำกัดของ NIPT:
- เป็นการตรวจคัดกรอง ไม่ใช่การวินิจฉัย: หากผล NIPT พบว่ามีความเสี่ยงสูง แพทย์จะยังคงแนะนำให้ทำการตรวจวินิจฉัยยืนยันด้วยวิธีรุกราน เช่น การเจาะน้ำคร่ำ หรือการเจาะชิ้นเนื้อรก เพื่อยืนยันผล
- ราคาค่อนข้างสูง: เมื่อเทียบกับการตรวจคัดกรองแบบอื่น ๆ
- ผลลบปลอม/ผลบวกปลอม: แม้จะแม่นยำสูง แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดผลลบปลอม (ไม่พบความผิดปกติแต่ทารกเป็น) หรือผลบวกปลอม (พบความผิดปกติแต่ทารกปกติ) ได้ แต่พบน้อยมาก
ขั้นตอนการตรวจ NIPT:
- การปรึกษาแพทย์: แพทย์จะให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับ NIPT ประโยชน์ ข้อจำกัด และตอบข้อสงสัยของคุณแม่ เพื่อช่วยในการตัดสินใจ
- การเจาะเลือด: เจาะเลือดจากหลอดเลือดดำที่แขนของคุณแม่เพียง 10-20 มิลลิลิตร (ปริมาณจะขึ้นอยู่กับแต่ละห้องปฏิบัติการ)
- การส่งตัวอย่างและประมวลผล: ตัวอย่างเลือดจะถูกส่งไปยังห้องปฏิบัติการเฉพาะทางเพื่อทำการวิเคราะห์ DNA ซึ่งใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
- การแจ้งผลและให้คำปรึกษา: เมื่อผลตรวจออกมา (ประมาณ 7-14 วัน ขึ้นอยู่กับห้องปฏิบัติการ) แพทย์จะนัดหมายคุณแม่เพื่อแจ้งผลและให้คำปรึกษาอย่างละเอียด รวมถึงวางแผนการดูแลต่อไปหากผลพบความผิดปกติ