การตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually Transmitted Infections/Diseases: STIs/STDs) เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงหรือมีความกังวลเกี่ยวกับการติดเชื้อ เพื่อให้สามารถตรวจพบและรักษาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ป้องกันการแพร่เชื้อ และลดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นหากไม่ได้รับการรักษา
บริการนี้เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน
- ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนหลายคน
- ผู้ที่มีคู่นอนที่เคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- ผู้ที่มีอาการผิดปกติที่สงสัยว่าเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น มีแผล ผื่น ตุ่ม หรือตุ่มน้ำที่อวัยวะเพศหรือบริเวณทวารหนัก ตกขาวผิดปกติ ปัสสาวะแสบขัด มีหนองไหลจากอวัยวะเพศ หรือคันบริเวณอวัยวะเพศ
- ผู้ที่ต้องการวางแผนครอบครัว หรือวางแผนการมีบุตร
- ผู้ที่ต้องการตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อความมั่นใจ
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อยและสามารถตรวจคัดกรองได้:
- โรคติดเชื้อเอชไอวี (HIV): ตรวจเลือด (Anti-HIV) เพื่อหาภูมิต้านทานต่อเชื้อ
- โรคซิฟิลิส (Syphilis): ตรวจเลือด (VDRL/RPR, TPPA)
- โรคหนองในแท้ (Gonorrhea): ตรวจปัสสาวะ, ตรวจสารคัดหลั่งจากท่อปัสสาวะ/ช่องคลอด/ลำคอ/ทวารหนัก
- โรคหนองในเทียม (Chlamydia): ตรวจปัสสาวะ, ตรวจสารคัดหลั่งจากท่อปัสสาวะ/ช่องคลอด/ลำคอ/ทวารหนัก
- ไวรัสตับอักเสบ บี (Hepatitis B): ตรวจเลือด (HBsAg)
- ไวรัสตับอักเสบ ซี (Hepatitis C): ตรวจเลือด (Anti-HCV)
- เริมที่อวัยวะเพศ (Genital Herpes): ตรวจจากรอยโรค (PCR) หรือตรวจเลือด (IgG/IgM for HSV)
- หูดหงอนไก่/การติดเชื้อ HPV (Human Papillomavirus): ตรวจจากรอยโรค, ตรวจ Pap Smear (ในผู้หญิง), หรือ HPV DNA Test (ในผู้หญิง)
ขั้นตอนการตรวจคัดกรอง:
- การซักประวัติ: แพทย์จะซักถามประวัติสุขภาพ ประวัติการมีเพศสัมพันธ์ และความเสี่ยงต่าง ๆ อย่างละเอียดและเป็นส่วนตัว
- การตรวจร่างกาย: แพทย์จะทำการตรวจร่างกายทั่วไป และตรวจบริเวณอวัยวะเพศ ช่องปาก หรือทวารหนัก เพื่อหารอยโรคหรือความผิดปกติที่อาจบ่งชี้ถึงการติดเชื้อ
- การเก็บตัวอย่างเพื่อส่งตรวจ: ขึ้นอยู่กับชนิดของโรคที่ต้องการคัดกรอง อาจมีการเก็บตัวอย่างดังนี้:
- เจาะเลือด: เพื่อตรวจหาเชื้อ HIV, ซิฟิลิส, ไวรัสตับอักเสบ
- เก็บตัวอย่างปัสสาวะ: เพื่อตรวจหาหนองในแท้และหนองในเทียม (นิยมใช้ในปัจจุบัน)
- เก็บสารคัดหลั่ง: จากท่อปัสสาวะในผู้ชาย, ช่องคลอดในผู้หญิง, หรือบริเวณอื่น ๆ เช่น ลำคอ ทวารหนัก
- เก็บตัวอย่างจากแผลหรือตุ่ม: เพื่อตรวจหาเชื้อเริม หรือซิฟิลิส
- เก็บตัวอย่างเซลล์ปากมดลูก (Pap Smear หรือ HPV DNA Test): สำหรับผู้หญิงเพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อ HPV
- การให้คำปรึกษา: แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกวิธี และการดูแลสุขภาพทางเพศอย่างปลอดภัย
สิ่งที่คุณควรทราบ:
- ความแม่นยำของผลตรวจ: ระยะเวลาที่เหมาะสมในการตรวจหลังจากมีความเสี่ยงจะแตกต่างกันไปในแต่ละโรค (Window Period) เพื่อให้ได้ผลที่แม่นยำที่สุด แพทย์จะให้คำแนะนำในเรื่องนี้
- ความเป็นส่วนตัว: การตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จะถูกเก็บเป็นความลับ
- ผลบวก/ผลลบ: หากผลตรวจเป็นบวก แพทย์จะให้คำแนะนำในการรักษาและดูแลตนเอง รวมถึงการป้องกันการแพร่เชื้อ หากผลเป็นลบ แต่ยังมีความกังวลหรือความเสี่ยง แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจซ้ำ
ระยะเวลาการให้บริการ:
การซักประวัติและเก็บตัวอย่างใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที ส่วนผลตรวจจะใช้เวลาแตกต่างกันไปตามชนิดของการตรวจ (บางการตรวจได้ผลภายในวันเดียว บางการตรวจอาจใช้เวลาหลายวัน) แพทย์จะนัดหมายเพื่อแจ้งผลและให้คำปรึกษาต่อไป